วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
พระราชวังจันทรเกษม (วังหน้า)
พระราชวังจันทรเกษม หรือที่เรียกกันเป็นสามัญว่า "วังหลัง" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ตรงที่เรียกกันว่าชื่อหน้า เมื่อแรกสร้างมีชื่อปรากฏในหนังสือพงศาวดารว่า "วังใหม่"
สมเด็จพระรนเรศวรมหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.2120 ในขณะที่พระองค์ยังเป็นอุปราชครองเมืองพิษณุโลก เหตุที่สร้างพระราชวังขึ้นตรงนี้ก็เพราะว่าเดิมเป็นชานพระนครอยู่นอกชานเมือง ภายหลังสมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดให้ขยายกำแพงเมืองนอกไปจนถึงริมแม่น้ำ ที่ดินในบริเวณนี้จึงว่างเปล่าไม่ใครมีบ้านเรือนราษฎร และอีกประการหนึ่งด้านขื่อหน้านี้เป็นที่สำคัญ เพราะพม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาครั้งใดมักเข้าตีทางด้านนี้เสมอ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเอาวังเจ้านายชั้นผู้ใหญ่มาั้ตั้งไว้ เพื่อช่วยรบข้าศึกที่ยกเข้ามาตีพระนครทางด้านนี้ และนอกจากที่กล่าวแ้วก็คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมักจะเสด็จจากเมืองพิษณุโลกมาเฝ้าพระราชบิดาอยู่เนือง ๆ ไม่มีำหนักที่ใหญ่โตเหมาะสมกับพระเกียรติยศ ที่จะใช้เป็นที่ประทับอยู่ในพระนคร จึงจำเป็นต้องสร้างวังขึ้นใหม่สำหรับใช้เป็นที่ประทับ เมื่อสมเด้จพระนเรศวรมหาราชเสด้จขึ้นครงราชสมบัติแล้ว ก็ยังประทับอยู่ที่พระราชวังนี้อยู่หลายปีก่อนที่จะไปประทับที่พระราชวังหลวง พระมหากษัตริย์ที่ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยาต่อมาในระยะหลัง เช่น สมเด็จพระนารายมหาราชและสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ก็ได้ประทับอยู่ ณ พระราชังจันทรเกษมนี้เป็นเวลาช้านาน และทรงได้สร้างสถานที่ต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นจากของเดิมหลายอย่าง
พระราชวังจันทรเกษมนี้ ถึงแม้ว่าพระมหากษัตริย์ส่วนใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยาจะไม่ใช้เป็นที่ประทับแต่จะโปรดให้เป็นวังของพระมหาอุปราชาจนตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2 ใน พ.ศ.2310 พระราชวังจันทรเกษมถูกไฟไหม้ สถานที่ต่าง ๆ ในพระราชวังหักพังชำรุดทรุดโทรมลงไปเป็นอันมาก และต่อมาในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้โปรดให้ลื้อเอาอิฐไปสร้างกรุงเทพมหานครเสียเป็นอันมาก พระราชวังจึงถูกทอดทิ้งให้รกร้างอยู่เรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่ 4 คือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองคืได้โปรดให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่เฉพาะส่วนหนึ่งของวังเดิม คือพระที่นั่งพิมานรัตยา และพลับพลาจตุรมุข สำหรับใช้เป็นที่ประทับเวลาเสด็จประภาสจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระราชวังจันทรเกษมจึงกลับเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ตลอดมาจนถึงรัชการที่ 5 คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์โปรดให้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่ที่เกาะบางปะอิน(พระราชวังบางปะอิน) แล้ว จึงพระราชทานให้เป็นที่ว่าการมณฑลอยุธยา แต่ครั้นยุบมณเฑียรลงในรัชกาลที่ 7 (พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) ก็โปรดให้ใช้เป็นศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อมาจนกระทั่งได้สร้างศาลากลางขึ้นใหม่ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยาในปี พ.ศ.2484 หลังจากทางราการได้ย้ายที่ทำการศาลากลางจังหวัดไปอยู่ในที่แห่งใหม่แล้ว กรมศิลปากรได้เข้าทำการรักษาดูแลต่อมา
ในคำให้การของชาวกรุงเก่า ได้กล่าวว่า พระราชวังจันทรเกษมนี้เดดิมมีกำแพงสองชั้นเหมือนวังหลวง กำแพงชั้นนอกสูง 7 ศอก ยาวโดยรอบ 24 เส้น กับมีพระที่นั่งหลายองค์
สถานที่ต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในพระราชวังจันทรเกษมทุกวันนี้ได้สร้างขึ้นในรัชการที่ 4 ทั้งหมด สร้างขึ้นตามแบบสมัยใหม่บ้าง สร้างตามแผนผังของเดิมสมัยกรุงศรีอยุธยาบ้าง
ป้ายกำกับ:
พระราชวังจันทรเกษม (วังหน้า) อยุธยา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น